บทที่ 5 การตั้งค่า
บริเวณสระว่ายน้ำบนดาดฟ้าของโรงแรมเต็มไปด้วยหนุ่มสาวหน้าตาดี
บอดี้การ์ดหลายคนยืนอยู่รอบขอบสระ คอยคุ้มกันเก้าอี้เอนหลังสองตัว ซึ่งตัวหนึ่งมีแมทธิวนั่งอยู่
ต่างจากแขกคนอื่นๆ ที่กำลังสนุกสนาน เขากลับนั่งในชุดสูทเต็มยศ ตรวจดูเอกสารราวกับว่ามาที่นี่เพื่อทำธุรกิจมากกว่าพักผ่อน
เวสลีย์ซึ่งสวมกางเกงว่ายน้ำปีนขึ้นมาจากสระ เขาหยิบผ้าขนหนูจากบอดี้การ์ดมาเช็ดผม แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างแมทธิว
“บางครั้งต้นไม้ใหญ่ก็ไม่ได้โค่นลงเพราะปัจจัยภายนอกหรอกนะ แต่มันอาจจะตายเพราะเน่าจากข้างในก็ได้”
เวสลีย์ยิ้มอย่างมีความหมาย เอกสารที่แมทธิวกำลังตรวจสอบอยู่นั้นเป็นข้อมูลที่เวสลีย์ช่วยสืบหาเกี่ยวกับการทุจริตภายในตระกูลโฮเวิร์ด
แมทธิวยังคงอ่านต่อไปโดยไม่ตอบอะไร
เวสลีย์ขยับเข้าไปใกล้แล้วถามเสียงเบาอย่างไม่พอใจ
“นี่นายกลับมาเพื่อดูเอกสารพวกนี้จริงๆ เหรอ ได้ข่าวว่าเจ้าสาวของนายวันนี้สวยไม่ใช่เล่นเลยนะ”
แมทธิวเก็บเอกสารพลางมองใบหน้าที่อยากรู้อยากเห็นของเวสลีย์ด้วยความเย็นชา
“นั่นก็แค่ทำตามความต้องการของครอบครัวฉัน พวกเขาอยากเห็นฉันแต่งงาน นายก็รู้ว่าฉันแพ้ผู้หญิง”
ขณะเดียวกัน ในห้องส่วนตัวของโอลิเวีย
เธอรู้สึกแน่นหน้าอกและเวียนศีรษะ
เธอคิดว่าเป็นเพราะห้องที่ทั้งอับและอากาศถ่ายเทไม่สะดวก
“ขอโทษนะคะทุกคน ฉันขอออกไปสูดอากาศข้างนอกหน่อย พวกคุณสนุกกันต่อเลยนะ”
โอลิเวียลุกขึ้นเพื่อจะออกจากห้อง ลูคัสพยายามจะช่วยพยุงเธอ แต่เธอกลับเบี่ยงตัวหลบสัมผัสของเขา
“ฉันเพิ่งแต่งงานวันนี้นะคะ ต้องรักษาระยะห่างจากผู้ชายคนอื่นหน่อย เดี๋ยวสามีฉันจะหึงเอา”
โอลิเวียโบกแหวนเพชรของเธอแล้วยักไหล่ราวกับพูดเล่น แต่ความจริงแล้วเธอกำลังเตือนลูคัสว่าเรื่องระหว่างพวกเขามันจบแล้ว
ลูคัสมองตามโอลิเวียที่เดินจากไป ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เอสเม่ที่นั่งอยู่บนโซฟากำหมัดแน่น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความริษยาที่ลุกโชน
‘ดูเหมือนว่ายาจะยังแรงไม่พอ สงสัยต้องเพิ่มอีกหน่อย’
กลับมาที่ริมสระ เวสลีย์ยกมือขึ้นสองข้างทำท่ายอมแพ้
“โอเคเพื่อน แต่นายจะไม่คิดจะอธิบายหน่อยเหรอ ใครๆ ก็ลือกันว่านายนกเขาไม่ขัน ถ้าฉันมีปัญหานั้นนะ ฉันผูกคอตายไปแล้ว”
เวสลีย์ทำท่าใช้มือวนรอบคอตัวเองแล้วกระตุกขึ้นแรงๆ ศีรษะของเขาเอียงไปข้างหนึ่ง ดวงตาเบิกโพลง ลิ้นห้อยออกมา เลียนแบบท่าคนถูกแขวนคอ
“ฉันสงสารนายจริงๆ เพื่อน นายจะไม่มีวันได้สัมผัสความสุขจากการได้อยู่กับผู้หญิงเลย”
พูดจบเวสลีย์ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินตรงไปที่สระ
“เฮ้ สาวๆ ดูสิว่าใครมา เจ้าชายมาถึงแล้ว! ซินเดอเรลล่าคนไหนอยากจะมอบรองเท้าแก้วให้ฉันบ้าง”
เวสลีย์ตะโกนแล้วกระโดดทิ้งตัวลงสระน้ำเสียงดังตูม ทำให้เกิดระลอกคลื่นขนาดใหญ่
หญิงสาวสวยๆ พากันมารุมล้อมเขาราวกับฝูงนางเงือก
“เห็นไหมเพื่อน ความสนุกมันเป็นแบบนี้ต่างหาก!”
เวสลีย์เล่นน้ำกระจาย มือไม้ของเขาก็ลูบไล้ไปทั่วร่างของผู้หญิงที่อยู่รอบตัว ในสระเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงครางอย่างสุขสมของเหล่าอิสตรี
แมทธิวส่ายหัวให้กับท่าทีของเวสลีย์ เขาคว้าเอกสารแล้วหันหลังตั้งใจจะเดินจากไป แต่ในจังหวะนั้นเองเขาก็ชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่ง
“ขอโทษค่ะ ฉันคิดว่าฉันหลงทาง ขอโทษจริงๆ ค่ะ”
โอลิเวียรีบกล่าวขอโทษอย่างร้อนรน เธอออกมาสูดอากาศแต่กลับหลงทางในโรงแรม
สิ่งที่ทำให้โอลิเวียประหลาดใจก็คือชายที่อยู่ตรงหน้าเธอกลับกระโดดถอยหลังอย่างตื่นตระหนก
“ให้ตายสิ อย่ามาแตะตัวผม”
แมทธิวมองโอลิเวียด้วยสายตารังเกจ จากนั้นก็รีบวิ่งไปยังห้องน้ำ เขาต้องเช็ดร่องรอยการสัมผัสทั้งหมดออกด้วยผ้าขนหนูเปียก ไม่อย่างนั้นมันอาจกระตุ้นอาการแพ้ของเขาได้
โอลิเวียจ้องมองตามหลังแมทธิวที่วิ่งหนีไปอย่างตื่นตระหนก แล้วกระทืบเท้าอย่างหัวเสีย
“วันนี้ฉันไม่เจอผู้ชายปกติสักคนเลย!”
โอลิเวียกวาดตามองฝูงชนที่กำลังสังสรรค์กันอยู่รอบสระว่ายน้ำ เธอรู้สึกอึดอัดกับภาพตรงหน้า จึงหันหลังเดินจากไป กลับไปยังห้องส่วนตัวของเธอ
เมื่อโอลิเวียกลับมา เอสเม่ก็นำเครื่องดื่มแก้วใหม่มาให้พร้อมกับถามอย่างสงสัย
“เธอไปไหนมาเหรอ ลูคัสเป็นห่วงแล้วก็ออกไปตามหาเธอแน่ะ ไม่เจอเขาเหรอ”
โอลิเวียส่ายหน้าขณะจิบเครื่องดื่ม
“ไม่นะ ฉันไม่เจอเขา”
เธอมองดูนาฬิกาข้อมือและตระหนักว่าใกล้ถึงเวลาเคอร์ฟิวของเซเลสต์แล้ว จึงตัดสินใจว่าต้องกลับบ้าน
“ขอโทษนะทุกคน ฉันต้องไปแล้วล่ะ พวกเธอก็รู้ว่าฉันเพิ่งแต่งงานใหม่ ฉันต้องสร้างความประทับใจที่ดีให้กับครอบครัวฮาวเวิร์ด”
โอลิเวียยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด จากนั้นก็ยักไหล่แล้วกล่าวลาเพื่อนๆ เธอต้องรีบออกไปจากที่นี่ เธอทนเห็นสีหน้าเจ็บปวดของลูคัสอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว
เพื่อนๆ เดินมาส่งโอลิเวียที่ประตูอย่างสุภาพ เอสเม่เสนอจะไปส่งเธอที่บ้าน แต่โอลิเวียปฏิเสธ
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันกลับเองได้”
โอลิเวียยิ้มขณะปฏิเสธ จริงๆ แล้วเธอกลัวว่าถ้าเอสเม่กลับไปกับเธอ เซเลสต์อาจจะพูดจาไม่ดีใส่
เอสเม่พยักหน้า มองดูโอลิเวียก้าวเข้าลิฟต์ไป เมื่อประตูลิฟต์ปิดสนิท รอยยิ้มเย้ยหยันก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเธอ
“ขอให้มีความสุขกับค่ำคืนนี้นะจ๊ะ เพื่อนรักของฉัน”
เอสเม่เข้าไปในห้องน้ำ ทิ้งซองเล็กๆ ลงในชักโครกแล้วกดน้ำทิ้ง จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรออก
“เธออยู่ในลิฟต์แล้ว ที่เหลือก็แล้วแต่คุณเลย”
เสียงหัวเราะที่ฟังดูหื่นกระหายดังมาจากปลายสาย
“ไม่ต้องห่วง ผมน่ะเชี่ยวชาญเรื่องแบบนี้จะตายไป”
ขณะยืนอยู่ในลิฟต์ โอลิเวียก็รู้สึกถึงคลื่นความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ลมหายใจของเธอเริ่มหอบถี่
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย หัวใจฉันเต้นแรงจัง”
โอลิเวียหอบหายใจอย่างหนัก โดยไม่รู้เลยว่าทำไมทั้งเนื้อทั้งตัวถึงรู้สึกคันยุบยิบและโหยหาการสัมผัสเนื้อตัวอย่างรุนแรง
ทันใดนั้นเอง ประตูลิฟต์ก็เปิดออก และแมทธิวก็ก้าวเข้ามา เขาสังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ข้างในจึงขมวดคิ้วแล้วขยับไปยืนอีกมุมหนึ่งเพื่อรักษาระยะห่างจากโอลิเวีย
แมทธิวไม่เคยเห็นรูปของโอลิเวียมาก่อน เขาคิดว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไร เขาจึงไม่รู้ว่านี่คือภรรยาของเขา
ขณะที่ลิฟต์เคลื่อนลงไปทีละชั้น สติของโอลิเวียก็เริ่มเลือนลางลงเรื่อยๆ จนกระทั่งกลิ่นกายแบบบุรุษเพศที่ชัดเจนโชยเข้าจมูกของเธอ
แมทธิวรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่ใกล้เข้ามา เขาหันไปมองอย่างขมวดคิ้ว ก็พบว่าโอลิเวียกำลังโผเข้าสู่อ้อมแขนของเขา
“บ้าจริง ออกไปจากตัวฉันนะ!” แมทธิวตวาด แต่โอลิเวียกลับเกาะเขาแน่นเหมือนโคอาล่า
“ให้ตายสิ ฉันต้องแพ้แน่ๆ ยาของฉัน...”
แมทธิวรีบค้นกระเป๋าของตัวเองเพื่อหายาแก้แพ้ แต่เมื่อเขาหยิบขวดยาออกมา เขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าข้อมือของเขาไม่มีร่องรอยของผื่นแดงเหมือนเช่นเคย
“เกิดอะไรขึ้น ไม่มีผื่น แถมการหายใจกับอัตราการเต้นของหัวใจก็ปกติ หรือว่าอาการของฉันดีขึ้นแล้ว หรือจะเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้...”
ขณะที่แมทธิวกำลังครุ่นคิด ริมฝีปากนุ่มนิ่มก็ประทับลงบนริมฝีปากของเขา...
วินาทีที่ถูกจู่โจมด้วยจูบ แมทธิวก็ตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก!
ตั้งแต่เด็กจนโต เพราะอาการประหลาดนั่น เขาแทบไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนเลย!
นี่เป็นครั้งแรกของเขา
