ความหลงใหลของเธอ

Ladda ner <ความหลงใหลของเธอ> gratis!

LADDA NER

คุณกำลังลื่นไส้ ที่รัก

ทิวทัศน์ของเมืองเลื่อนผ่านกระจกติดฟิล์มเป็นภาพเบลอของแสงไฟสีแดงและตึกระฟ้า คนขับรถของผมซอกแซกฝ่าการจราจรไปราวกับคนมีเรื่องต้องพิสูจน์ตัวเอง ผมแทบไม่ได้สนใจมัน ในหัวของผมพุ่งไปถึงความวุ่นวายที่รออยู่ข้างหน้าแล้ว ‘อินเฟอร์โน’ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่เรียบร้อยที่สุดของผม คลับหรูระดับไฮเอนด์ที่ดูดีและเก็บความลับมิดชิด ที่ซึ่งข้อตกลงต่างๆ ถูกปิดลงด้วยเหล้าช็อตละร้อยดอลลาร์และสายตาที่หรี่ปรือ เขตเป็นกลาง ห้ามมีเรื่อง ห้ามเลือดตกยางออก ห้ามมีลูกไม้ ดังนั้นตอนที่เลียมโทรมาบอกว่า “มีสถานการณ์” ผมก็รู้เลยว่าเรื่องมันต้องเลวร้ายแน่

เราจอดเทียบทางเข้าด้านหลัง ซึ่งอยู่ห่างจากถนนหลักไปสองสามช่วงตึก ฝูงชนเริ่มมุงกันอยู่ด้านหน้า แสงไฟสีน้ำเงินและแดงจากรถตำรวจสาดสะท้อนอยู่บนผนังกระจกเงา แถวที่เคยมีในคืนวันศุกร์ตามปกติสลายไปแล้ว กลายเป็นกลุ่มคนในเครื่องแบบและไทยมุงตาโตที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย ผมเหลือบไปเห็นการ์ดของเราสองคนกำลังพยายามทำตัวไม่ให้เป็นที่สังเกต พวกมันกันคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปพลางทำทีเป็นว่าไม่ได้มีส่วนกับเหตุการณ์นี้เลย ฉลาดดี ผมก้าวลงไปในความมืด เสียงรองเท้าบูตกระทบพื้นถนนอย่างหนักแน่น ความเย็นยะเยือกโอบล้อมตัวผมราวกับเพื่อนเก่า ผมจัดข้อมือเสื้อเชิ้ตแล้วมุ่งตรงไปยังทางเข้าของพนักงาน เลียมยืนรออยู่ตรงประตูแล้ว

“ข้างในเละเทะไปหมด” เขาพูดขึ้นมาโดยไม่อารัมภบท “คนของเราสองสามคนพยายามจะกันกลุ่มที่ใส่สีแก๊งเข้ามา พวกมันบอกว่าเป็นแค่ลูกค้า แต่ไม่มีใครใส่ชุดบ้าๆ นั่นเดินเข้ามาในอินเฟอร์โนหรอกถ้าไม่ได้ตั้งใจมาหาเรื่อง”

“แล้วก็ได้เรื่องสมใจ” ผมพึมพำขณะเดินเฉียดตัวเขาเข้าไป

เสียงดนตรียังคงดังอยู่ อู้อี้และเป็นจังหวะ เหมือนพยายามจะรักษาภาพลวงตาเอาไว้ แต่ความตึงเครียดในอากาศกลับเปรี๊ยะปร๊ะราวกับไฟฟ้าสถิต ผมก้าวเข้าไปในฟลอร์แล้วกวาดสายตามองไปทั่วห้อง โต๊ะล้มระเนระนาด เศษแก้วแตกสะท้อนแสงวับวาวเหมือนเพชรที่ร่วงหล่น นักเต้นคนหนึ่งยืนตัวแข็งทื่ออยู่บนเวทีของเธอ กอดตัวเองไว้แน่น สายตาตวัดมองไปยังกลุ่มชายฉกรรจ์ในโซนวีไอพีมุมซ้ายสุด คนของผมสามคนกำลังคุมเชิงพวกมันไว้อย่างทุลักทุเล ผมเห็นคราบเลือดเปรอะอยู่บนปกเสื้อของคนหนึ่งแล้ว อีกคนมีมีดเหน็บอยู่ที่เข็มขัด นิ้วของเขากระตุกยิกๆ เหมือนอยากหาข้ออ้างที่จะได้ใช้มัน ผมก้าวเข้าไปกลางวง

“พอได้แล้ว” ผมพูด น้ำเสียงเย็นชาและก้องกังวาน

มันตัดผ่านเสียงดนตรีราวกับคมมีด ทุกสายตาหันมามอง ผมไม่ได้ตะโกน ผมไม่จำเป็นต้องทำ ชื่อของผมมีน้ำหนัก และเมื่อผมเดินเข้าไปในห้องไหน มันก็เรียกร้องความเงียบได้เสมอ

ชายที่อยู่ตรงมุมห้อง อายุราวสามสิบกลางๆ รูปร่างกำยำ มีรอยสักเลื้อยออกมาจากใต้ปกเสื้อ ยังไม่ขยับในทันที สายตาของมันจับจ้องมาที่ผม ท้าทาย... ลองของ

“ขอโทษผู้หญิงคนนั้นซะ” ผมพูด พยักพเยิดไปทางนักเต้นที่ยังตัวสั่นไม่หาย “แล้วก็ไสหัวออกจากคลับของกูไป”

หนึ่งจังหวะหัวใจ... สอง... แล้วมันก็ถ่มน้ำลายลงบนพื้นก่อนจะลุกขึ้นยืน

“อุตส่าห์จะเล่นดีๆ ด้วยแล้ว” มันพูดพลางจ้องเขม็งไปที่คนของผม “ไม่คิดว่าไอ้พวกลูกหมาของเดอะดอนจะปวกเปียกขนาดนี้”

พลาดแล้ว ผมก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด กระชากคอเสื้อมันแล้วอัดกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรงจนปูนร้าว ลูกน้องของมันสะดุ้ง แต่ไม่มีใครกล้าขยับ ผมจ้องหน้ามันในระยะประชิดจนได้กลิ่นเหล้าถูกๆ กับเหงื่อ

“กูไม่สนว่ามึงจะมาจากแก๊งไหน” ผมพูดลอดไรฟัน “ที่นี่ถิ่นกู ถ้ามึงทำให้เลือดตกในนี้อีกแม้แต่หยดเดียว กูจะส่งกลับไปแต่กระดูกในกล่อง ให้แม่มึงไว้ดูต่างหน้า”

ผมปล่อยมือ แล้วมันก็ทรุดตัวไปข้างหน้าพลางไอโขลกๆ มันไม่เถียงสักคำ

“ลากพวกมันออกไป” ผมสั่ง

คนของผมเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ความตึงเครียดสลายไปพร้อมกับเสียงฝีเท้าลากถูและคำสบถพึมพำ กลิ่นคาวเลือดและอะดรีนาลีนคละคลุ้งอยู่ในอากาศ ผมหันไปหาเลียมที่ดูเหมือนอยากจะยิ้มแต่ก็รู้ดีว่าไม่ควร

“มันน่าจะแย่กว่านี้ได้นะ” เขาพึมพำ

“น่าจะเรียบร้อยกว่านี้ได้” ผมตอบ พลางปัดฝุ่นออกจากเสื้อโค้ต

ผมเริ่มเดินไปยังบาร์วีไอพี ต้องการเวลาสักครู่ ต้องการเครื่องดื่ม หรืออะไรก็ได้ที่จะปัดเป่าความตึงเครียดนี้ทิ้งไป และตอนนั้นเองที่ผมเห็นมัน...ผ้าเช็ดปากผืนหนึ่ง พับไว้อย่างเรียบร้อย วางอยู่ตรงที่ที่ผมนั่งประจำ ฝีเท้าผมชะงักไปครึ่งวินาที ผมหยิบมันขึ้นมา คลี่ออกอย่างช้าๆ ข้อความสามคำเขียนด้วยลิปสติกสีแดงเข้มสดจ้องมองกลับมา

“ฝีมือตกนะ ที่รัก”

ผมจ้องมัน ความโกรธที่ค่อยๆ แผ่ซ่านจากอกขึ้นมาจุกที่ลำคอ ตัวอักษรนั้นเนี้ยบและสง่างาม ลิปสติกนั่นเป็นเฉดสีโปรดของเธอ ผมรู้เพราะเคยเจอมันเปื้อนอยู่บนปลอกกระสุนครั้งหนึ่ง เธอทิ้งมันไว้บนหมอนของผมเมื่อหลายเดือนก่อน ผมกวาดสายตามองไปรอบห้อง ชีพจรเต้นสม่ำเสมอแต่เฉียบคมขึ้น ประสาทสัมผัสทุกส่วนตื่นตัวเต็มที่

เธออยู่ที่นี่ ท่ามกลางความโกลาหล ท่ามกลางฝูงชน ผมพับผ้าเช็ดปากอย่างระมัดระวังแล้วสอดมันลงในกระเป๋าเสื้อโค้ตราวกับว่ามันมีความหมาย...เพราะมันมีความหมายจริงๆ ข้อความนั้นไม่ใช่แค่การหยอกเย้า มันคือคำเตือน การเย้ยหยัน คำสารภาพ การที่เธอมาถึงที่นี่ก่อนผมได้...แสดงว่าเธอไม่เพียงเข้าถึงกล้องของผมได้ หรือที่แย่กว่านั้นคือ เธอมีกล้องของเธอเอง ความคิดนั้นวนเวียนอยู่ในท้องอย่างน่าอึดอัด เธอกำลังเฝ้ามองอยู่เสมอ ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกการเคลื่อนไหว ทุกรอยร้าวบนเกราะของผม สายตาผมกวาดไปทั่วคลับอีกครั้ง แต่ไม่มีอะไรผิดปกติ มีเพียงพนักงานบาร์ที่กำลังเช็ดโต๊ะเหนียวๆ เหล่านักเต้นที่หลบเข้าหลังเวที ฝูงชนที่เริ่มฟื้นตัว ดนตรีเริ่มจับจังหวะของมันได้อีกครั้ง ภาพลวงตาของความปกติเริ่มก่อตัวขึ้นใหม่ ทีละเล็กทีละน้อย แต่แล้ว...ตรงนั้น มีบางอย่างเคลื่อนไหวที่หางตา ตรงประตูข้าง เลยจากโถงทางเดินและป้ายทางออกที่กะพริบไหวราวกับดาวใกล้ดับแสง ซ่อนตัวอยู่ในเงาของม่านกำมะหยี่ ร่างหนึ่ง ร่างเล็ก สวมฮู้ด เสื้อผ้าสีดำที่แนบสนิทกับส่วนโค้งเว้าของเธอราวกับความลับ เธอยืนนิ่งสนิท...เฝ้ามอง มองผมอยู่ ลมหายใจผมสะดุด ไม่ใช่ความกลัว ไม่ใช่ความประหลาดใจ แต่เป็นบางสิ่งที่หนักหน่วงกว่านั้น เหมือนมีเส้นลวดที่ขึงตึงอยู่ระหว่างเรา แม้จะอยู่ไกล แต่ผมก็รู้ ท่าทางของเธอที่ดูผ่อนคลาย อ่านไม่ออก และจงใจ วิธีที่เธอเอียงศีรษะเล็กน้อย ราวกับรู้อยู่แล้วว่าผมกำลังคิดอะไร ดวงตาสีเขียว แทบมองไม่เห็นภายใต้เงาของฮู้ด แต่ลุกโชน มีชีวิตชีวา สายตาของเราประสานกัน เพียงชั่ววินาที...แล้วเธอก็หันหลัง เล็ดลอดออกไปทางประตูข้างราวกับควัน หายไปแล้ว “ฉิบหาย” ผมขยับตัวก่อนจะรู้ตัวเสียอีก ผมแหวกฝูงชน ไม่สนใจเสียงของเลียมที่ดังแครกๆ ในหูฟัง ไม่สนใจเสียงเรียกของนักเต้นและพนักงานที่ตกใจ ขณะที่ผมพุ่งทะลุประตูทางออกไปยังตรอกด้านหลังคลับ ความเย็นปะทะหน้าราวกับถูกตบ เฉียบขาดและไร้ความปรานี ตรอกนั้นว่างเปล่า มีถังขยะใบเดียว กลิ่นควันบุหรี่ที่ยังอ้อยอิ่ง ไม่มีรอยเท้า ไม่มีเสียงสะท้อน มีเพียงความเงียบ เธอหายตัวไปอีกแล้ว ผมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นครู่ใหญ่ สูดเอาความเงียบสงัดเข้าปอด ปล่อยให้ความเดือดดาลแล่นพล่านอยู่ใต้ผิวหนังราวกับฝูงมดคันไฟ ทุกครั้งให้ตายสิ เธอเข้ามาใกล้พอที่จะเฉียดผม แล้วก็หายตัวไปก่อนที่ผมจะทันได้เอื้อมมือคว้าตัวเธอด้วยซ้ำ เธอกำลังยั่วผม ท้าทายผม ทิ้งร่องรอยไว้ให้เหมือนเศษขนมปังแล้วเฝ้าดูผมไล่ตาม และผมก็กำลังไล่ตาม ผมดึงผ้าเช็ดปากออกจากกระเป๋าโค้ตอีกครั้ง ใช้นิ้วโป้งลูบมันให้เรียบ

“ฝีมือตกนะ ที่รัก”

ไม่ ไม่ได้ฝีมือตก แค่กำลังลับให้คมขึ้นต่างหาก เพราะตอนนี้ผมรู้แล้ว เธอไม่ใช่ภาพฝันนามธรรมอีกต่อไป เธอมีตัวตนอยู่จริง เธอจับตาดูปฏิบัติการของผม คลับของผม และตัวผม และเธออยู่ที่นี่ ในเมืองของผม ในโลกของผม ในระยะของผม

Föregående kapitel
Nästa kapitel