สาวแกร่งในคราบเด็กสาว

Last ned <สาวแกร่งในคราบเด็กสาว> gratis!

LAST NED

บทที่ 3 ฉันแค่เล่นโง่

ฉันจ้องเอมิลี่ คำนวณในใจว่าต้องใช้แรงมากแค่ไหนถึงจะสั่งสอนบทเรียนเรื่องความเคารพให้หล่อนจำไปจนวันตาย ไม่ถึงกับเอาชีวิต แค่ให้แน่ใจว่าหล่อนจะคิดให้ดีก่อนอ้าปากพูดอีกครั้ง ร่างกายของฉันเกร็งขึ้น เตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนไหว

“เจด ไปพักผ่อนเถอะนะ” เสียงนุ่มนวลของแฟรงก์ดังขัดขึ้นมาจากสุดโถงทางเดิน “พ่อได้ยินเรื่องที่โรงเรียนวันนี้แล้ว เดี๋ยวคืนนี้พ่อทำมื้อเย็นเอง”

การขัดจังหวะอย่างกะทันหันทำลายสมาธิของฉัน ฉันเหลือบมองไปยังแฟรงก์ ชายวัยกลางคนผู้มีแววตาใจดีและหัวไหล่ที่ลู่ลง เขาคือพ่อของเรา

ฉันส่งสายตาเย็นชาให้เอมิลี่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันหลังกลับ หล่อนยังคงยืนตัวแข็งทื่อ เห็นได้ชัดว่าหวาดหวั่นกับสิ่งที่เห็นในดวงตาของฉัน

ฉันกลับมาที่ห้องแล้วทิ้งตัวลงบนที่นอนบาง ๆ สัมผัสได้ถึงสปริงที่ทิ่มแทงแผ่นหลัง ร่างกายน่าสมเพชนี่มันอ่อนแอเกินไปโดยสิ้นเชิง แค่เดินกลับบ้านก็เหนื่อยจนแทบหมดแรงแล้ว

“กระทั่งงานดี ๆ สักงานยังหาไม่ได้เลย แล้วจะทำอาหารให้มันกินได้ได้ยังไง” เสียงของลินดาบาดอากาศเข้ามาเหมือนมีดทื่อ ๆ ทั้งน่ารำคาญและไร้ประสิทธิภาพ

“ยัยอ้วนคนนั้นก็แค่ขี้เกียจอีกแล้วน่ะสิ” เสียงแหลมปรี๊ดของเอมิลี่ผสมโรงกับแม่ของหล่อน

“พ่อเป็นยังไง ลูกก็เป็นอย่างนั้น ไร้ประโยชน์ทั้งคู่” ลินดาเห็นด้วย

ฉันได้ยินลินดาพ่นคำสบประมาทต่อไปขณะที่เสียงของพวกเธอเคลื่อนไปตามโถงทางเดิน คำดูถูกเหล่านั้นผสมปนเปกันจนกลายเป็นแค่เสียงรบกวนฉากหลังที่ไร้ความหมาย


“เจดเหรอ มื้อเย็นพร้อมแล้วนะ” เสียงลังเลของแฟรงก์ดังมาพร้อมกับเสียงเคาะประตูเบา ๆ

ฉันลากสังขารตัวเองขึ้น รู้สึกถึงน้ำหนักที่ไม่คุ้นเคยของร่างกายนี้ ขณะที่ฉันเดินไปล้างมือในครัว โทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นก็ดึงความสนใจของฉันไป

“มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุระเบิดที่เกาะในทะเลแคริบเบียน” ผู้ประกาศข่าวรายงาน “เกาะส่วนตัวซึ่งถูกทำลายราบเป็นหน้ากลองเมื่อเช้าวานนี้ ดูเหมือนว่าจะมีศูนย์ปฏิบัติการใต้ดินอยู่ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า...”

ฉันตัวแข็งทื่อ ปล่อยให้น้ำไหลผ่านมือขณะจ้องมองภาพบนจอ

“เกาะทั้งเกาะจมลงสู่ทะเลโดยสมบูรณ์” นักข่าวรายงานต่อ “จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีองค์กรใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อ...”

“แกจะยืนเปิดน้ำทิ้งทั้งคืนรึไง” ลินดาตวาดจากด้านหลัง

ฉันปิดก๊อกน้ำ เช็ดมือช้า ๆ กับผ้าขนหนูเก่าคร่ำคร่า


ครอบครัวมอร์แกนมานั่งรวมกันรอบโต๊ะไม้ที่มีรอยขีดข่วน แฟรงก์ทำพาสต้าอะไรสักอย่างกับซอสกระป๋องและมีทบอลแช่แข็ง เขาตักส่วนของฉันให้เยอะเป็นพิเศษพร้อมกับซุปถ้วยหนึ่ง

“รสชาติอย่างกับขยะ” ลินดาพูดขึ้นหลังจากชิมไปคำแรก “แค่อุ่นอาหารกระป๋องยังทำไม่ได้เรื่อง”

เอมิลี่หัวเราะคิกคักพลางเขี่ยอาหารในจานไปมา “ขนาดอาหารโรงเรียนยังอร่อยกว่านี้เลย”

ฉันกินอย่างเป็นระบบ ในใจยังคงคิดถึงข่าวที่ได้ดู

มีบางอย่างสัมผัสจานของฉัน แม็กซ์วางชิ้นไก่ลงบนจานให้เงียบ ๆ เขาหลบสายตาขณะกลับไปกินอาหารของตัวเองต่อ เป็นการกระทำที่ไม่คาดคิดซึ่งดึงฉันออกจากภวังค์ได้ชั่วขณะ

“วันนี้ที่โรงเรียนโทรมา” ลินดาประกาศ ดวงตาของเธอหรี่ลงขณะมองมาที่ฉัน “ครูแนะแนวของแกอยากจะประชุมเรื่องเกรด”

ฉันกินต่อไป ไม่คิดจะตอบ

“นี่แกฟังฉันอยู่รึเปล่าหา! แกสอบตกเกือบทุกวิชา!” หล่อนตบฝ่ามือลงบนโต๊ะ “สภาพแบบนี้ แม้แต่จะเข้าวิทยาลัยชุมชนก็ยังไม่ได้เลย แกวางแผนจะทำอะไรกับชีวิตของแกหา?”

ฉันกลืนอาหารลงคอก่อนจะตอบ “ฉันมีแผนของฉัน”

“โอ้ แกมีแผนด้วยเหรอ” น้ำเสียงของลินดาเต็มไปด้วยความประชดประชัน “ช่วยบอกแผนการอันชาญฉลาดของแกให้พวกเรากระจ่างใจหน่อยสิ”

“ฉันจัดการเองได้” ฉันพูดเรียบ ๆ แล้วหันกลับไปสนใจอาหารของตัวเองต่อ

เมื่อจัดการกับฉันเสร็จ ลินดาก็หันวาจาเผ็ดร้อนไปทางแฟรงก์ “คุณรู้ไหมว่าพวกพี่น้องของคุณหัวเราะเยาะฉันลับหลังกันขนาดไหน พระเจ้า ทำไมฉันถึงได้สามีไร้ประโยชน์แบบนี้มาได้นะ”

แฟรงก์ก้มหน้ามองจานข้าวของตน ไม่ได้ตอบอะไร

“พี่น้องของคุณทุกคนก็เคยจนกรอบเหมือนคุณตอนที่เราแต่งงานกันนั่นแหละ” หล่อนพูดต่อ เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ “แต่ตอนนี้ทุกคนมีรถดีๆ ขับ มีบ้านใหม่กันหมดแล้ว แต่คุณล่ะ ทำให้เราต้องมาติดแหง็กอยู่ในบ้านสวะๆ นี่ ต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ากับเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ ที่พวกเขากำลังจะโยนทิ้ง”

ใบหน้าของแฟรงก์แดงก่ำด้วยความอับอายขณะยกแก้วน้ำขึ้นจิบ ริ้วรอยบนใบหน้าทำให้เขาดูแก่เกินวัยไปมากจากความเครียดและการทำงานหนัก

“ถ้าคุณมีความทะเยอทะยานสักนิด ขาของแม็กซ์ก็อาจจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้องไปแล้ว” ลินดาใช้ส้อมชี้ไปทางแม็กซ์ “แต่ไม่เลย เราไม่มีปัญญาจ่ายค่าผ่าตัดในตอนที่มันสำคัญ แล้วตอนนี้มันก็สายเกินไปที่จะรักษาให้หายสนิทแล้ว”

ฉันสังเกตเห็นนิ้วของแม็กซ์ที่กำด้ามส้อมแน่นขึ้นเมื่อถูกพูดถึงเรื่องความพิการของเขา แม้ว่าสีหน้าจะยังคงเรียบเฉยอย่างระมัดระวัง

“ตอนนั้นฉันคงตาบอดไปแล้วแน่ๆ ที่แต่งงานกับคุณ” ลินดาสรุปพลางส่ายหน้าอย่างรังเกียจ


“เจด ไปล้างจาน” ลินดาสั่งเมื่ออาหารเย็นสิ้นสุดลง

แฟรงก์ลุกขึ้น “ลูกควรจะได้พักนะ วันนี้หัวเขาโขกแรงพอสมควร”

“ก็แค่น้ำตาลในเลือดต่ำน่ะสิ” ลินดาพ่นลมอย่างรังเกียจ “มือไม่ได้เจ็บสักหน่อย ล้างจานไม่ทำให้ตายหรอก”

อารมณ์ของฉันเดือดพล่าน ในฐานะชาโดว์ ชื่อเสียงด้านความอำมหิตและเฉียบขาดของฉันไม่ใช่แค่ข่าวลือ ฉันกำลังจะแสดงให้ลินดาเห็นว่าหล่อนกำลังต่อกรอยู่กับใคร แต่แล้วแม็กซ์ก็ลุกขึ้นเงียบๆ แล้วเริ่มเก็บจาน

“แกคิดจะทำอะไร” ลินดาตวาดใส่เขา “เอมิลี่กับแกต้องเตรียมตัวเรื่องสมัครเข้ามหาวิทยาลัย ปล่อยให้เจดทำหน้าที่ของตัวเองไป”

ฉันตวัดสายตาเย็นเยียบจนเลือดแทบจับตัวเป็นน้ำแข็งมองหล่อน คำพูดของลินดาติดอยู่ในลำคอเมื่อสบตาฉัน แม้แต่เอมิลี่ก็ยังก้มลงมองจานของตัวเองราวกับมันเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในโลก ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอันน่าอึดอัด

แม็กซ์ไม่สะทกสะท้านกับความตึงเครียดนั้น เขายังคงเก็บจานต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


คืนนั้น ฉันยืนอยู่ในสวนหลังบ้านเล็กๆ สำรวจบ้านที่ดูทรุดโทรมแต่กว้างขวาง

ฉันยืดแขน สัมผัสถึงข้อจำกัดของร่างกายที่อ้วนเกินพิกัดนี้ กล้ามเนื้ออ่อนแอเรี่ยวแรงแทบไม่มี ร่างที่ฉันเคยสถิตในฐานะชาโดว์เปรียบเสมือนเครื่องมืออันเที่ยงตรงที่ถูกลับให้คมกริบผ่านการฝึกฝนอย่างโหดเหี้ยมมานานหลายปี แต่ร่างนี้ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

“สิ่งแรกที่ต้องทำคือฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย” ฉันกระซิบกับตัวเองพลางเริ่มยืดเส้นยืดสายขั้นพื้นฐาน


ระหว่างทางกลับเข้าบ้าน ฉันสังเกตเห็นแสงไฟยังลอดออกมาจากใต้ประตูห้องของแม็กซ์ ฉันผลักประตูเข้าไปโดยไม่เคาะ

แม็กซ์นั่งหลังค่อมอยู่หน้าโต๊ะทำงาน จ้องโจทย์ฟิสิกส์ด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น บนกระดาษเต็มไปด้วยสมการแคลคูลัสขั้นสูง

ฉันเหลือบมองโจทย์ “คำตอบคือ 347.8 นิวตันต่อตารางเมตร”

แม็กซ์เงยหน้าพรวดขึ้นมา “อะไรนะ”

ฉันหยิบดินสอของเขาขึ้นมาแล้วเขียนวิธีทำลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมอธิบายแต่ละขั้นตอนด้วยศัพท์เฉพาะทางอย่างแม่นยำ

“เธอทำได้ยังไง...” แม็กซ์จ้องมองวิธีทำสลับกับมองหน้าฉัน “นี่มันฟิสิกส์ระดับมหาวิทยาลัยนะ แต่เธอกำลังจะสอบตกคณิตพื้นฐาน”

ฉันยักไหล่ “วิชาพวกนั้นมันน่าเบื่อเกินกว่าจะใส่ใจ”

“แต่...” ดวงตาของเขาหรี่ลงด้วยความสับสน “ในใบเกรดของเธอเขียนว่าเธอสอบตกเกือบทุกวิชา”

“มันเป็นการแสดงทั้งหมดนั่นแหละ” ฉันพูดพลางหันหลังเตรียมจะเดินออกไป “วิชาพวกนั้นมันต่ำชั้นเกินไปสำหรับฉัน”

“เธอแกล้งโง่มาตลอดเลยเหรอ” น้ำเสียงของแม็กซ์เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “ทำไมถึงมีคนทำอะไรแบบนั้นด้วย”

Forrige kapittel
Neste kapittel