พันธะสัญญากับอัลฟ่า

डाउनलोड <พันธะสัญญากับอัลฟ่า> मुफ्त के लिए!

डाउनलोड करें

บทที่ 4

โรงแรมเฮอร์มีสคือโรงแรมที่หรูหราที่สุดในเมือง ส่วนหน้าของอาคารที่ทำจากหินอ่อนและทองคำนั้นเคยมีอยู่สำหรับฉันแค่ในหน้านิตยสารสวยหรูเท่านั้น หัวใจฉันเต้นระรัวอยู่ในอกตอนที่โดมินิกใช้บัตรสีดำด้านแตะเพื่อเข้าไปในห้องเพนต์เฮาส์สวีท ผู้จัดการโรงแรมพาเราขึ้นไปส่งด้วยตัวเอง โดยไม่แม้แต่จะขอดูบัตรประชาชนหรือข้อมูลการลงทะเบียนใดๆ เลย

ในลิฟต์ เรายืนอยู่ในความเงียบที่ชวนอึดอัด ฉันรู้สึกได้ถึงสายตาของโดมินิกที่ไล่มองไปทั่วร่าง... ไม่ใช่แค่การประเมิน แต่เป็นการกลืนกิน ผิวของฉันรู้สึกซ่านวาบตรงที่สายตาของเขาจ้องมอง และฉันก็เผลอเลียริมฝีปากอย่างไม่รู้ตัว เมื่อสายตาของเราสบกันในผนังกระจก ประกายไฟฟ้าราวกับแล่นปราดอยู่ระหว่างเรา ฉันรู้สึกเหมือนเหยื่อที่กำลังถูกผู้ล่าประเมินขนาด และน่าแปลกที่ความรู้สึกนั้นกลับส่งความสั่นสะท้านอันหอมหวานไปทั่วสันหลังแทนที่จะเป็นความกลัว

พอเข้ามาในห้องสวีท ฉันเดินไปที่หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน รู้สึกหน้ามืดตาลายเมื่อมองลงไปยังแสงไฟระยิบระยับของเมืองเบื้องล่าง “จากตรงนี้ ทั้งเมืองดูเหมือนเป็นของคุณเลย” เสียงของฉันสั่นเล็กน้อย

ด้านหลัง ฉันได้ยินเสียงผ้าเสียดสีกันเบาๆ ขณะที่โดมินิกถอดเสื้อสูทออก เสียงกระดุมข้อมือโลหะของเขากระทบโต๊ะดัง ‘คลิ้ง’ ส่งความสั่นสะท้านอีกระลอกไปทั่วร่างฉัน ฉันมองภาพสะท้อนของเขาในหน้าต่าง—แผ่นหลังกว้างขยับไหวอยู่ใต้เสื้อเชิ้ตสีขาว มัดกล้ามเนื้อเป็นลอนทุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหวอย่างจงใจ

“คุณเปลี่ยนใจได้นะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนอย่างไม่คาดคิด

ฉันหันไปเผชิญหน้ากับเขา ลมหายใจสะดุด แสงจันทร์สาดส่องสร้างเงาร่างสมบูรณ์แบบของเขาที่ยืนอยู่กลางห้องนั่งเล่น กระดุมเสื้อสองเม็ดบนถูกปลดออก เผยให้เห็นผิวสีแทนเย้ายวนใจอยู่ไรๆ “ไม่ค่ะ” ฉันกระซิบ ร่างกายร้อนรุ่มด้วยความคาดหวัง “ฉันไม่อยากเปลี่ยนใจ”

โดมินิกเดินเข้ามาหาฉันช้าๆ แต่ละย่างก้าวทำให้ชีพจรของฉันเต้นเร็วยิ่งขึ้น กลิ่นโคโลญของเขา—กลิ่นไม้จันทน์หอมผสมกับอะไรบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้ชาย—โอบล้อมตัวฉันไว้เมื่อเขาเข้ามาใกล้ ไออุ่นจากร่างกายของเขาแผ่ซ่านกระทบผิวฉันแม้ว่าเขายังไม่ได้สัมผัสตัว

“ทำไมต้องเป็นฉัน” เขาถาม เสียงทุ้มต่ำของเขาสั่นสะเทือนไปทั่วอกฉัน “เป็นเพราะสิ่งที่ฉันเป็น? หรือคืนนี้คุณแค่ต้องการหมาป่าสักตัว?” นิ้วของเขาปัดผมฉันไปด้านหลัง สัมผัสสบายๆ นั้นร้อนแรงดั่งเปลวไฟ

ฉันเงยหน้ามองเขา น้ำตาคลอหน่วยขึ้นมากะทันหันขณะที่ในอกรู้สึกเจ็บปวด “เพราะคุณไม่ใช่วิลเลียม มอเร็ตติ” ฉันสารภาพ เสียงขาดห้วงเมื่อเอ่ยชื่อนั้น

โดมินิกชะงักงัน อารมณ์ซับซ้อนฉายวาบผ่านใบหน้าของเขา “มอเร็ตติ? หมาป่าที่กำลังจะได้เป็นเดลต้าน่ะเหรอ”

ฉันกัดริมฝีปากจนได้รสเลือดเมื่อรู้ตัวว่าพูดมากเกินไป “ลืมที่ฉันพูดไปเถอะค่ะ” ฉันกระซิบ พลางเอื้อมมือขึ้นไปสัมผัสใบหน้าของเขา ลูบไล้ไปตามแนวกรามที่แข็งแรง “คืนนี้เราจะไม่พูดเรื่องอดีตกัน”

ในชั่วพริบตา เขาก็เผยธาตุแท้ออกมา ผลักฉันติดผนังแล้วใช้แขนทรงพลังกักขังฉันไว้ ร่างของเขากดเบียดกับร่างของฉัน กล้ามเนื้อแข็งแกร่งแนบชิดกับส่วนโค้งเว้าที่อ่อนนุ่ม ความร้อนระหว่างเราแผดเผา “ถ้าคุณใช้ผมเพื่อแก้แค้นมัน” เขาคำราม ริมฝีปากอยู่ห่างจากฉันเพียงนิดเดียว “ผมก็ควรรู้ว่าทำไม”

“เขาทรยศฉัน” ฉันหอบหายใจ “หนึ่งวันก่อนงานแต่งงานของเรา” เสียงของฉันแตกร้าวด้วยความเจ็บปวดและปรารถนา “พอใจรึยังล่ะ”

ดวงตาของเขาเปล่งประกายสีทองในแสงสลัว เผยให้เห็นสัญชาตญาณหมาป่าที่คืบคลานใกล้เข้ามา ฉันรู้สึกได้ถึงหัวใจของเขาที่เต้นรัวอยู่ในอก ประสานเป็นจังหวะเดียวกับหัวใจของฉันที่เต้นระส่ำ “คุณเกือบจะได้เป็นคู่ของมันงั้นเหรอ” เสียงคำรามที่แสดงความเป็นเจ้าของในน้ำเสียงของเขาทำให้แก่นกลางกายของฉันบีบรัดด้วยความต้องการ

ฉันท้าทายด้วยการดึงคอเสื้อลง เผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าบอบบางตรงช่วงคอต่อกับหัวไหล่ “เห็นไหมคะ ไม่มีรอย ฉันไม่มีค่าพอแม้แต่จะให้เขาทำพิธีประทับรอยให้เสร็จสมบูรณ์ด้วยซ้ำ”

ความอดทนของโดมินิกขาดสะบั้น แล้วเขาก็จูบฉัน จูบที่หยาบกระด้าง ร้อนแรง และหิวกระหาย ลิ้นของเขารุกล้ำเรียกร้อง มือของเขาขยำเส้นผมของฉัน เชยคางฉันขึ้นเพื่อทำให้จูบลึกซึ้งยิ่งขึ้น กระแสไฟฟ้าเหมือนแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่าง ไหลไปรวมกันที่ช่วงท้องน้อยและทำให้ฉันครางออกมาในปากของเขา ฉันขยุ้มไหล่ของเขา เล็บจิกลงไปในเนื้อผ้าเชิ้ตราคาแพง

เมื่อเราผละออกจากกัน ต่างก็หอบหายใจ ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีทองของหมาป่าโดยสมบูรณ์ มันส่องประกายด้วยความหิวกระหายตามสัญชาตญาณดิบ “นี่มันเป็นเรื่องผิดพลาด...” เขาคำราม นิ้วโป้งของเขาลูบไล้ริมฝีปากล่างที่บวมเจ่อของฉันอย่างหยาบกระด้าง “...แต่คืนนี้ผมไม่สน”

เราโซซัดโซเซไปยังห้องนอน เปลื้องเสื้อผ้าทิ้งไปตลอดทาง ผิวสีทองอร่ามของเขาที่เผยออกมาทีละนิดทำให้ฉันน้ำลายสอ เมื่อฉันเปลือยเปล่า ดวงตาของเขาก็เข้มขึ้นขณะไล่มองไปทั่วร่างของฉัน ทำให้ฉันทั้งรู้สึกอ่อนแอและทรงพลังในเวลาเดียวกัน สัมผัสของโดมินิกทั้งรุนแรงและอ่อนโยน ปลุกเร้าผิวของฉันให้ลุกเป็นไฟทุกที่ที่ปลายนิ้วของเขาลากผ่าน ฉันพบว่าตัวเองตอบสนองต่อทุกการเคลื่อนไหวของเขา ร่างกายของฉันขานรับร่างกายของเขาราวกับว่าเราเป็นคู่รักกันมานานหลายปี ไม่ใช่คนแปลกหน้า

เมื่อริมฝีปากของเขาเคลื่อนมาที่ลำคอ ฟันของเขาขูดเบาๆ ตรงจุดชีพจร ฉันรู้สึกถึงความปรารถนาอันแปลกประหลาดที่ไม่เคยประสบมาก่อน—ความเจ็บปวดที่ว่างเปล่าซึ่งต้องการการเติมเต็ม “คุณจะ... ตีตราฉันไหม” ถ้อยคำเหล่านั้นหลุดออกจากปากก่อนที่ฉันจะหยุดมันได้ มันช่างหนักอึ้งไปด้วยความต้องการและความสิ้นหวัง

โดมินิกหยุดชะงัก อกของเขาหอบสะท้อนกับอกของฉันขณะที่เขาบังคับตัวเองให้กลับมาควบคุมสติอารมณ์ ความขัดแย้งฉายชัดอยู่บนใบหน้าที่งดงามของเขา “ไม่” เขาพูดเสียงห้วน “การตีตราเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เครื่องมือสำหรับการแก้แค้น”

“งั้นก็อย่าออมแรงสิ” ฉันอ้อนวอน พลางลากเล็บลงบนแผ่นหลังของเขา “ฉันอยากจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง”

เมื่อในที่สุดเขาก็สอดใส่เข้ามา ความเจ็บปวดจากการขยายตัวทำให้ฉันสูดหายใจอย่างแรง ร่างกายเกร็งตัวขณะที่เล็บของฉันจิกเป็นรอยจันทร์เสี้ยวลงบนแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา น้ำตาเอ่อคลอหน่วยตาจากการรุกล้ำ

โดมินิกคำรามในลำคออย่างพึงพอใจ “เธอแน่นมาก แม่กวางน้อย” น้ำเสียงของเขาเครียดเกร็งจากความพยายามที่จะยับยั้งชั่งใจ เขาปัดผมออกจากหน้าผากที่ชื้นเหงื่อของฉันด้วยความอ่อนโยนอย่างน่าประหลาดใจ “คู่หมั้นของเธอตาต่ำจริงๆ ที่ทิ้งของรางวัลอย่างเธอไป” สะโพกของเขายังคงนิ่งสนิท เปิดโอกาสให้ฉันได้ปรับตัว

ความละอายใจและความท้าทายต่อสู้กันอยู่ข้างใน ทำให้แก้มของฉันร้อนผ่าว “ทำต่อไปเถอะ” ฉันเร่งเร้า พลางขยับสะโพกอย่างลองเชิงและสูดปากกับความรู้สึกที่ได้รับ

การเคลื่อนไหวของเขากลายเป็นอ่อนโยนและควบคุมได้มากขึ้น และน่าประหลาดใจที่เราก็พบจังหวะที่เข้ากันซึ่งค่อยๆ ก่อตัวไปสู่ความสุขสมที่ท่วมท้น ทุกแรงกระแทกดึงเสียงครางหอบกระเส่าออกมาจากเราทั้งคู่ ความเชื่อมโยงนั้นรุนแรงกว่าที่ฉันเคยจินตนาการไว้มากนัก ร่างกายของฉันตอบสนองต่อเขาราวกับถูกสร้างมาเพื่อเขา ทุกสัมผัส ทุกจุมพิตถูกขยายความรู้สึกให้รุนแรงเกินกว่าเหตุผล

เมื่อการปลดปล่อยมาถึงในที่สุด มันซัดสาดเข้าใส่ฉันเป็นระลอกคลื่น ดึงเสียงร้องที่ฉันซุกซ่อนไว้กับไหล่ของเขาออกมา โดมินิกกัดข้อมือตัวเองแทนที่จะเป็นลำคอของฉัน ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรงชิดกับร่างของฉัน แต่ฉันยังคงรู้สึกถึงบางสิ่งที่จับต้องไม่ได้ก่อตัวขึ้นระหว่างเรา...สายสัมพันธ์ที่ฉันไม่สามารถเรียกชื่อหรือเข้าใจได้ สิ่งที่ทำให้ฉันทั้งหวาดกลัวและตื่นเต้นในระดับที่เท่าๆ กัน


แสงแดดยามเช้าส่องผ่านม่านเข้ามา อาบไล้ผิวเปลือยเปล่าของฉันจนอบอุ่น ฉันลืมตาขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย รู้สึกสับสนอยู่ชั่วครู่ ร่างกายของฉันปวดร้าวไปทั้งตัวอย่างน่าพึงพอใจ บทลงโทษสองเท่าจากอาการเมาค้างและการสูญเสียพรหมจรรย์แสดงตัวให้รับรู้ในทุกการเคลื่อนไหว ผ้าปูที่นอนให้ความรู้สึกนุ่มนวลอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อสัมผัสกับผิวที่บอบบางของฉัน

ฉันค่อยๆ พลิกตัวและพบว่าโดมินิกนอนหันหลังให้ฉัน ฉันแทบหยุดหายใจเมื่อเห็นภาพนั้น—ไหล่กว้างที่สอบลงมาเป็นเอวคอด กล้ามเนื้อที่สมบูรณ์แบบมีรอยข่วนสีแดงฉานอย่างเกรี้ยวกราดที่ฉันทิ้งไว้ระหว่างค่ำคืนของเรา ความร้อนผ่าวผุดขึ้นบนแก้มขณะที่ภาพความทรงจำวาบกลับเข้ามา—ขาของฉันที่พันรอบเอวของเขา ชื่อของเขาที่หลุดรอดจากลำคอของฉัน ฟันของเขาที่ขูดเบาๆ บนไหล่ของฉัน

“ตื่นแล้วเหรอ” โดมินิกพูดโดยไม่หันมา น้ำเสียงของเขาแหบพร่ายามเช้าแต่แฝงความขบขันอย่างชัดเจน

ฉันรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว หัวใจเต้นรัว “ฉันนึกว่าคุณยังหลับอยู่” เสียงของฉันแหบห้าว ทรยศต่อปฏิกิริยาที่ยังคงค้างอยู่ในร่างกายของฉันที่มีต่อเขา

เขากลิ้งตัวกลับมา ผ้าห่มเลื่อนลงต่ำอย่างน่าหวาดเสียวบนสะโพกของเขาขณะที่เขาหันหน้ามาหาฉัน สีหน้าของเขาจริงจัง แต่ดวงตาของเขาไล่มองไปทั่วไหล่เปลือยและแนวไหปลาร้าของฉันด้วยความปรารถนาที่ไม่อาจปิดบัง “หูของคนหมาป่าน่ะ เสียงหัวใจที่เต้นเร็วของเธอปลุกคนตายให้ฟื้นได้เลย”

ฉันพยายามทำตัวสบายๆ แม้ว่าความร้อนจะแล่นปราดลงมาถึงลำคอ “เอ่อ... ฉันว่าฉันควรจะไปได้แล้ว”

สายตาของโดมินิกจับจ้องไปที่ผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือด ปลายจมูกของเขาบานออกเล็กน้อย สูดกลิ่นหลักฐานความบริสุทธิ์ของฉัน “งั้นเมื่อคืน... เป็นครั้งแรกของเธอเหรอ” แววแห่งความประหลาดใจฉายวาบขึ้นในดวงตาของเขา

पिछला अध्याय
अगला अध्याय