บทที่ 1
มุมมองของรีเบคกา
ฉันเก็บความตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ขณะหมุนตัวอยู่หน้ากระจกบานยาวของโซเฟีย แม้จะอยู่ในชุดกางเกงนอนหลวมๆ กับเสื้อยืดตัวโคร่ง ฉันก็ยังรู้สึกว่าตัวเองสวย พรุ่งนี้ฉันจะได้อยู่ในชุดเจ้าสาว เดินไปหาวิลเลียม และเริ่มต้นชีวิตของเราด้วยกัน
“พรุ่งนี้ฉันก็จะได้เป็นคุณนายวิลเลียม มอเร็ตติแล้ว” ฉันพูด น้ำเสียงสูงขึ้นด้วยความตื่นเต้น หัวใจเต้นรัวอยู่ในอก หลังจากคบกันมาห้าปี ในที่สุดฉันก็จะได้เข้าร่วมฝูงซิลเวอร์มูนด้วยการแต่งงานกับหนึ่งในเดลต้าในอนาคตของพวกเขา แค่คิดก็มีความสุขจนแทบจะหน้ามืด
โซเฟียยืนอยู่ตรงประตู ในมือถือแก้วไวน์ ผมหยิกสั้นสีดำของเธอยุ่งเหยิงรอบใบหน้า ดวงตาขอบคล้ำของเธอมองฉันด้วยสีหน้าที่ฉันอ่านไม่ออก
“เธอควรจะนอนได้แล้วนะ รีเบคกา” เธอพูดแล้วจิบไวน์ “พรุ่งนี้เป็นวันสำคัญนะ”
“ฉันตื่นเต้นจนนอนไม่หลับหรอก” ฉันพูด รู้สึกถึงความสุขที่มันฟูฟ่องขึ้นมาในใจ “แล้วมันก็งี่เง่ามากเลยที่คืนนี้ฉันจะเจอวิลเลียมไม่ได้ สมัยนี้ใครเขายังทำตามธรรมเนียมนั้นกันอยู่อีก” ความหงุดหงิดระคนกับความโหยหาแวบขึ้นมา ฉันแค่อยากจะอยู่กับเขา
โซเฟียทำเสียงขึ้นจมูก “เธอกำลังจะแต่งเข้าฝูงซิลเวอร์มูนนะ พวกนั้นยึดถือธรรมเนียมที่ไม่มีเหตุผลเอาซะเลยสำหรับมนุษย์อย่างเรา”
ฉันแตะชุดแต่งงานที่สั่งตัดพิเศษและสัมผัสความเรียบลื่นของเนื้อผ้าไหมด้วยปลายนิ้ว วิลเลียมทำให้ฉันได้เข้าถึงโลกที่ฉันไม่เคยจินตนาการว่าจะเอื้อมถึง แม้แต่ที่พักของโซเฟียที่ฉันมาอาศัยอยู่แค่คืนนี้ ก็ยังอยู่ในย่านที่ฉันไม่มีปัญญาจ่ายไหวด้วยเงินเดือนผู้ช่วยสอนเก่าๆ ของฉัน
“ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรื่องนี้กำลังเกิดขึ้นจริงๆ” ฉันพูดเบาๆ ความรู้สึกขอบคุณท่วมท้นในใจ “เมื่อห้าปีก่อนฉันยังจมอยู่ในหนี้การศึกษา อาศัยอยู่ในสตูดิโออพาร์ตเมนต์แย่ๆ นั่น...”
“แล้วตอนนี้เธอก็กำลังจะแต่งงานไต่เต้าฐานะ” โซเฟียพูดต่อ มีบางอย่างที่แหลมคมในน้ำเสียงของเธอทำให้ความสุขของฉันสั่นคลอนไปชั่วขณะ
ฉันหันไปเผชิญหน้ากับเธอ สังเกตเห็นรอยขมวดคิ้วระหว่างดวงตาของเธอ “เธอไม่ชอบเขาสินะ” ท้องไส้ฉันปั่นป่วนด้วยความกังวล
โซเฟียถอนหายใจแล้วนั่งลงบนขอบเตียง “ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบเขาหรอกนะ แค่ว่า... เขาเป็นคนหมาป่า แต่เธอเป็นมนุษย์ ฝูงซิลเวอร์มูนก็ไม่ใช่ว่าจะต้อนรับคนนอกสักเท่าไหร่”
“ฉันคือคู่แท้ของเขานะ” ฉันพูดอย่างปกป้องขณะนั่งลงข้างๆ เธอ ฉันรู้สึกอยากปกป้องความสัมพันธ์ของเรา ปกป้องอนาคตที่เราวางแผนไว้ “แล้วพวกเขาก็เคารพในพันธะคู่แท้... มันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับพวกเขา” ฉันอยากให้เธอเข้าใจว่าเรื่องนี้มันพิเศษแค่ไหน
สีหน้าของโซเฟียอ่อนลง “ฉันรู้ แต่มันเป็นเรื่องลำดับชั้นของพวกนั้น... พวกอัลฟ่า เบต้า เดลต้า... มันตายตัวเกินไป ฉันไม่อยากให้เธอต้องเจ็บ” แววตาของเธอเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างแท้จริง
“วิลเลียมไม่มีวันทำร้ายฉันหรอก” ฉันพูดด้วยความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยม “แล้วการแต่งงานครั้งนี้ก็หมายความว่าฉันจะช่วยพ่อเรื่องค่ารักษาพยาบาลได้ด้วย” เสียงของฉันสั่นเครือเล็กน้อย “ไม่ต้องเลือกระหว่างค่ารักษากับค่ากินอีกต่อไปแล้ว”
โซเฟียพยักหน้าช้าๆ แล้วยกแก้วขึ้น “ถ้างั้นก็... ดื่มให้เธอกลายเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในวันพรุ่งนี้”
เธอแตะแก้มฉันเบาๆ ฉันยิ้มให้เธอ แล้วหันไปสนใจเช็กลิสต์งานแต่งของตัวเองแทนความไม่สบายใจที่ความกังวลของเธอได้ก่อขึ้น
“บ้าเอ๊ย บ้าเอ๊ย บ้าเอ๊ย” ฉันพึมพำขณะเทของในกระเป๋าค้างคืนของฉันลงบนเตียงเป็นครั้งที่สาม สร้อยคอมุกของฉันไม่ได้อยู่ในนั้น ฉันใจหายวาบเมื่อเปิดแอปเช็กลิสต์งานแต่งดู—ฉันลืมมันไว้ที่อพาร์ตเมนต์ของเราหลังจากไปรับมาจากการวัดขนาดครั้งสุดท้าย
ฉันเช็กโซเชียลมีเดียของวิลเลียม เขาเพิ่งโพสต์รูปเซลฟี่ที่ยิมเมื่อสามสิบนาทีก่อนพร้อมแคปชันว่า “ออกกำลังกายครั้งสุดท้ายในฐานะชายโสด” จุดสีเขียวข้างรูปโปรไฟล์ของเขาแสดงว่าเขายังออนไลน์อยู่ เขายังอยู่ที่ยิมแน่ๆ
จังหวะดีเลย ฉันแอบกลับไปที่อะพาร์ตเมนต์ของเรา หยิบสร้อยคอ แล้วกลับมาก่อนที่โซเฟียจะทันสังเกตด้วยซ้ำว่าฉันหายไป วิลเลียมยืนกรานให้ฉันอยู่กับโซเฟียในคืนนี้—เป็นธรรมเนียมอะไรสักอย่างของมนุษย์หมาป่าเรื่องการสร้างความตื่นเต้นรอคอย—แต่เรื่องที่เขาไม่รู้ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร
ฉันเขียนโน้ตสั้นๆ ทิ้งไว้ให้โซเฟียซึ่งหลับไปแล้วหลังจากดื่มไวน์แก้วที่สาม แล้วก็เรียกรถ ยี่สิบนาทีต่อมา ฉันก็มายืนอยู่หน้าตึกสูงหรูหราของเรา สัมผัสอากาศอุ่นๆ ของคืนฤดูร้อนบนผิวกาย
พนักงานเปิดประตูพยักหน้าให้ฉันตอนที่เดินเข้าไป นี่คือชีวิตของฉันในตอนนี้—คีย์การ์ด ลิฟต์ส่วนตัว ผู้คนที่จำฉันได้ ห้าปีที่แล้ว ฉันยังต้องสอนพิเศษภาคฤดูร้อนแค่เพื่อให้มีเงินจ่ายค่าเช่าอยู่เลย แต่ตอนนี้ฉันกำลังจะย้ายเข้ามาอยู่ในตึกหรูแห่งนี้ บางครั้งฉันก็ยังไม่อยากจะเชื่อ
ในอะพาร์ตเมนต์เงียบสงัด ความเจ้าระเบียบเกินเหตุของวิลเลียมหมายความว่าทุกอย่างอยู่ในที่ที่มันควรจะอยู่—เคาน์เตอร์ที่สะอาดเอี่ยม หมอนอิงที่จัดวางอย่างสมบูรณ์แบบบนโซฟาหนังของเรา ฉันตรงไปที่ห้องนอนเพื่อตรวจดูโต๊ะเครื่องแป้ง ที่ที่ฉันเห็นกล่องแหวนครั้งสุดท้าย
มันไม่ได้อยู่ที่นั่น หัวใจฉันเต้นเร็วขึ้นขณะค้นในตู้เสื้อผ้า ตรวจดูลิ้นชัก หรือแม้กระทั่งมองใต้เตียง ไม่มี มันจะไปอยู่ที่ไหนได้อีก
ห้องทำงานของวิลเลียมเหรอ ฉันลังเลอยู่หน้าประตู วิลเลียมไม่ชอบให้ฉันเข้าไปในนั้นโดยไม่ได้รับอนุญาต เขาพูดเสมอว่ามันคือ 'พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์' ของเขา ที่ที่เขาใช้จัดการเรื่องโทรศัพท์ธุรกิจและการประชุมฝูง
แต่นี่มันเรื่องฉุกเฉิน ฉันผลักประตูเข้าไปแล้วเปิดไฟ
ห้องทำงานดูเหมือนเดิมทุกอย่าง—หนังสือปกหนังที่เขาไม่เคยอ่าน โต๊ะไม้วอลนัทราคาแพง เก้าอี้ผู้บริหารพนักพิงสูงที่แพงกว่ารถคันแรกของฉันเสียอีก ฉันเริ่มค้นหาตามตู้เก็บของที่เรามักจะเก็บของสำคัญไว้
ขณะที่ฉันเดินผ่านโต๊ะทำงาน ก็เผลอเดินไปชน หน้าจอแล็ปท็อปของเขาก็สว่างขึ้น—เขาไม่ได้ปิดเครื่องสนิท ฉันกำลังจะหันหลังกลับ แต่แล้วข้อความหนึ่งก็สะดุดตาฉัน
[ที่รักของฉัน...]
ฉันตัวแข็งทื่อ วิลเลียมไม่เคยเรียกฉันว่า 'ที่รัก' เลยสักครั้งในชีวิต เขาเรียกฉันว่า 'เบบ' หรือบางครั้งก็ 'คนดี' เวลาที่เขาต้องการอะไรบางอย่าง แต่ไม่เคยเป็นคำว่า 'ที่รัก' ฉันรู้ว่าไม่ควรมอง นี่เป็นเรื่องส่วนตัว แต่สายตาของฉันก็อ่านข้อความนั้นไปแล้ว
มันเป็นแอปส่งข้อความเข้ารหัสที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน รายชื่อผู้ติดต่อมีแค่ตัวอักษร 'โอ' ข้อความพวกนั้นแสดงความสนิทสนมกันอย่างชัดเจน ข้อความล่าสุดที่ส่งมาเมื่อชั่วโมงที่แล้วคือ: [เจอกันที่เดิมหลังเข้ายิมนะ รอจูบเธอไม่ไหวแล้ว]
ท้องไส้ของฉันบิดเกร็งอย่างเจ็บปวด มือไม้สั่นเทา ฉันเลื่อนหน้าจอขึ้นไปดูข้อความเก่าๆ แต่ละข้อความเหมือนการตบหน้า
[ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าเทอมโรงเรียนเอกชนของเจมส์นะ จัดการให้เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างจะดำเนินไปตามปกติหลังงานแต่ง ยายผู้หญิงนั่นไม่มีทางรู้หรอก]
เข่าฉันอ่อนยวบ ฉันเลื่อนอ่านต่อไป แต่ละข้อความเหมือนมีดกรีดแทงกลางอก เจมส์? ในหัวฉันหมุนคว้าง เจมส์เป็นใครกัน ที่ฉันรู้ก็คือโอลิเวีย เพื่อนเจ้าสาวของฉันมีหลานชายชื่อเจมส์ 'โอ' โอลิเวีย ใช่เลย แต่ทำไมวิลเลียมต้องจ่ายค่าเทอมให้หลานชายของเธอด้วย
ฉันเปิดลิ้นชักโต๊ะด้วยมือที่สั่นเทา แฟ้มที่เขียนว่า 'ส่วนตัว' บรรจุรูปถ่ายหลายสิบใบ—วิลเลียม โอลิเวีย และเด็กชายคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนพวกเขาทั้งสองคนมากเกินไป เจมส์ กำลังใช้ชีวิตในแบบที่ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อน รอยยิ้มบนชายหาด เสียงหัวเราะที่สกีรีสอร์ต ความอบอุ่นในชุดนอนคู่กันเช้าวันคริสต์มาส ภาพแต่ละใบเป็นเหมือนเศษแก้วในใจฉัน กรีดเฉือนอนาคตที่ฉันวาดฝันไว้จนแหลกสลาย
ที่ก้นแฟ้มมีใบเกรดใบหนึ่ง สภาพใหม่เอี่ยมและเป็นทางการ ปรากฏชื่อของเด็กชายคนนั้น น้ำตาเอ่อคลอจนภาพพร่ามัว และฉันก็เอ่ยชื่อนั้นออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ “เจมส์ มอเร็ตติ...”














































































































































































